วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สามเณรบุญนา:ยอมตายดีกว่ายอมสึก

สามเณรบุญนา:ยอมตายดีกว่ายอมสึก


อาตมภาพปฏิญาณตนว่า "เมื่อชีวิตนี้ยังอยู่ตราบใด จะไม่เปลื้องผ้ากาสาวพัสตร์ออกจากกาย หากท่านทั้งหลายจะสึกผมแล้ว จงทำศีรษะของผมให้ขาดออกจากร่างกายนี้เป็น ๒ ท่อนก่อน ค่อยเปลื้องผ้าเหลืองออก จึงจะเป็นอันสึก หากดวงชีวิตนี้ยังอยู่ อย่าเลย ท่านทั้งหลายเอ๋ย ในชีวิตนี้เป็นไปไม่ได้เสีย แล้วในการสึกของผม ถึงไหนถึงกัน หากจะล้างผลาญชีวิตของผมให้ตายลงวันนี้ ผมก็ยอมตาย หากจะให้สึก ก็จะไม่ยอมสึกเป็นอันขาด


ในชีวิตนี้ท่านทั้งหลายต้องการอย่างไร ทำไปเถิด หากผมไม่ได้มอบชีวิตนี้ ถวายแก่พรหมจรรย์แล้ว ที่ไหนผมจะมาแสดงในข้อ ว่าท่านทั้งหลายประพฤติค่อนข้างเป็นอลัชชี ท่านทั้ง หลายจงฟังดูเถิด คำพูดอันนี้เป็นคำดูหมิ่นพระอลัชชีโดยตรงอยู่แล้ว ท่านทั้งหลายเห็นคนอื่นเขาพูดกันไหม เพราะเขากลัวตายกันอยู่ จึงช่วยนิยมความประพฤติผิดพระธรรมวินัยว่าเป็นของถูกของนิยมกันอยู่เท่านั้น ส่วนผมเล่า เอาเถอะ ในชีวิตนี้จะตายลงวันไหนก็ตาม ขอแต่ได้ประพฤติพระธรรมวินัยให้เป็นให้อยู่ และได้นำความจริงของศาสนามาประกาศตามเป็นจริงอยู่เช่นนี้


ผมมิได้ห่วงในชีวิตที่จะทำกิจของพรหมจรรย์ให้เป็นไปอยู่ เพราะผมได้มอบชีวิตแล้วแก่พรหมจรรย์อย่างแน่นแฟ้น เรื่องของศาสนานี้ผมมิได้หวาดหวั่นแล้ว อย่าว่าแต่ท่านทั้งหลายจะมาขู่ให้ผมสึกหรือให้เห็นตามข้อประพฤติที่ผิด ๆ ของท่านทั้งหลาย ไม่มีทางหรอก ท่านทั้งหลายเอ๋ย คนเช่นผม หากไม่แน่นอนในใจแล้ว ก็จะไม่ประพฤติทั้งจะไม่พูดในเรื่องนั้น ๆ ถ้า ประพฤติหรือพูดลงไปแล้ว ยอมสละชีวิตลงแทนคำพูด และความประพฤติของตนอย่างเด็ดหัวตัวขาดทีเดียว คำพูดทั้งหมดที่ผมแสดงไปว่า พระทั้งหลายเป็นอลัชชี โยมทั้งหลายกลายเป็นเดียรถีย์ ข้อนี้นั้นผมเผดียงหาตัวพระอลัชชีเท่านั้น มิใช่ผมพูดด้วยความเห่อเหิมว่า มีคนนับถือเท่านั้น


บัดนี้ ผมขอประกาศอีกเป็นครั้งที่ ๒ ว่า ตัวของผมเองได้มองเห็นมลทินของศาสนาคือ พระเณรประพฤติไม่เป็นยุติเป็นธรรมแล้ว ตั้งแต่ครั้งผมจำพรรษาอยู่ที่ ถ้ำภูเขากูด เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๒ จึงได้เที่ยวธุดงค์ออกมาเพื่อประกาศพระพุทธศาสนา ทั้งเผดียงหาตัวพระอลัชชี พึ่งมาพบเมื่อเดือน ๓ ขึ้น ๓ ค่ำ ปี พ.ศ. ๒๔๗๓ ในจังหวัดกาฬสินธุ์นี้เอง ก็ชอบกลอยู่ ข้าพเจ้าเกิดก็เกิดเดือน ๓ ขึ้น ๓ ค่ำ ตั้งใจจะทำกิจของศาสนา ก็มีกาลถึงพร้อมในกำหนดวันเดียวกัน


บางทีต่อไปข้างหน้า หากชีวิตของข้าพเจ้ายังตั้งอยู่ไปนาน อาจจะบริหารพระพุทธศาสนานี้ให้เป็นยุติเป็นธรรมก็อาจเป็นได้ นี้แหละ ฟังดูเถิดท่านทั้งหลาย ความตั้งใจของผมได้เป็นมาแล้วอย่างนี้ ที่ไหนผมจะหวั่นไหวต่อความกระทบกระทั่งของท่านทั้งหลายด้วยฝีปากเท่านี้ มิได้มีเลย แม้แต่ชีวิตนี้ผมก็ได้สละลงแล้ว เพื่อกิจของศาสนาอันมีคุณานุภาพอันยิ่งใหญ่ไพศาล"



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น