วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สามเณรบุญนาค:สาธุวันดีผู้ทรงฤทธิ์

สามเณรบุญนาค:สาธุวันดีผู้ทรงฤทธิ์


ต่อจากนั้น อาตมภาพจึงเดินขึ้นเขา ไปหาถ้ำที่สำหรับจำวัด เพราะเดือนมืดจะเดินกลางคืนก็เห็นจะลำบาก พอขึ้นไปบนหลังเขา ไปพบพระองค์หนึ่งชื่อ สาธุวันดี ท่านบอกว่า ท่านอยู่เมืองหลวงพระบาง ขณะนั้นอายุของท่านองค์นั้นกำลัง ๒๕ ปี ท่านถามอาตมภาพว่า "เณรเที่ยวมานานแล้ว ได้คุณวุฒิอะไรบ้าง" อาตมภาพก็เล่าตามเรื่องที่เป็นมาของตนให้ท่านฟัง


ท่านจึงแนะนำว่า "บุคคลผู้บำเพ็ญเพียร หากรู้ว่าบุพเพ (อดีตชาติ) ของตนเป็นมาแล้วอย่างไร คนนั้นจะมีความเพียรก้าวหน้าไม่ท้อถอย เพราะว่าชาติที่เป็นมาแล้ว สุขบ้าง ทุกข์บ้าง ดีบ้าง ชั่วบ้าง เป็นสัตว์บ้าง เป็นมนุษย์บ้าง เมื่อเห็นเช่นนี้ว่า ความเกิดเป็นมนุษย์และสัตว์ในโลกมีภพอันเป็นไปปรกติ ผู้นั้นจึงกล้าต่อความเพียรนั้นอีกในโลกนี้ เหตุนั้นผู้เห็นบุพเพนิวาสานุสสติแล้ว จึงมีความเพียรก้าวหน้าไม่หยุด ผู้บำเพ็ญทั้งหลายเมื่อชำนาญการดักจิตแล้ว ควรบำเพ็ญปัญญาจักษุอันนี้ให้เจริญขึ้น จึงจะไม่ท้อถอยต่อการบำเพ็ญ"


อาตมภาพจึงถามท่านว่า "ปฏิบัติมาแค่ผม ควรบำเพ็ญแล้วหรือยัง" ท่านตอบว่า "การดักจิตของเณรก็ชำนาญบ้างแล้ว แต่ขาดปัญญาจักษุ เหตุนั้นควรอบรมปัญญาจักษุให้กล้าก่อน จึงควรต่อไป" จากนั้นท่านก็แนะนำทางปัญญาจักษุ พอควร แล้วท่านจึงแสดงฤทธิ์ของท่านบางสิ่ง บางอย่าง เช่น หายตัว คือ ขณะนั้นไปเที่ยวบิณฑบาตด้วยกันกับอาตมภาพ อาตมภาพเดิน ตามหลังท่าน ท่านเดินก่อน ทายกเขาไม่เห็นท่าน บิณฑบาตก็ไม่ได้ ได้เฉพาะแต่อาตมภาพผู้เดินตามหลัง


ที่ถ้ำนั้นมีบ้านอาศัย บิณฑบาต ๕ หลังคาเรือน ทำไร่ข้าวเป็นอาชีพ เป็นคนชาติพวน อาตมภาพพักศึกษากรรมฐานกับ ท่านองค์นั้นอยู่ ๑๖ วัน จากนั้นออกเดินตามคลองชายฝั่งเป็นถนน คือท่านเดินไต่หลังน้ำไป เป็นของสุดวิสัยของอาตมภาพที่จะตามได้ จึงเป็นอันว่าหมดหนทางจะตามท่านไปด้วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น