วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สามเณรบุญนาค:เศรษฐีจะยกลูกสาวให้

สามเณรบุญนาค:เศรษฐีจะยกลูกสาวให้


เมื่ออาตมภาพได้รับโอวาทของท่านแล้ว จึงขอลาท่านไปจำพรรษาอยู่ที่ ภูเขาฝ่ายพญานาค ในพรรษานั้นตั้งใจบำเพ็ญความสงบส่วนตัว ก็ได้ความสบายใจ มิได้มีอุปสรรคอันหนึ่งอันใดเลย เมื่อออกพรรษาแล้วเที่ยวธุดงค์ไปจังหวัดมหาสารคาม ไปพักอยู่ที่บ้านแห่งหนึ่ง มีคนตระกูลหนึ่ง เขาเป็นคนมีทรัพย์พอสมควร เขาก็นิมนต์ให้พักอยู่ที่ป่าช้าได้ ๒๐ วัน แกคนนั้นเป็นคนเข้าออกปฏิบัติทั้งลูกทั้งแม่


ครั้นต่อมา โยมคนนั้นจึงเล่าความเป็นอยู่ของเขาว่า "ผมก็แก่แล้ว การไปมาก็ไม่สะดวก และผมก็เป็นทุกข์อยู่อย่างหนึ่ง คือหากผมตายลงไป กลัวจะไม่มีใครพาลูกของผมอยู่ เพราะมีลูกสาวคนเดียวเท่านั้น ทรัพย์สิ่งของก็มากมาย ไม่รู้ว่าใครจะมาช่วยรักษาและพาลูกของผมอยู่กินไปข้างหน้า


คนโดยมากไม่ตั้งอยู่ในศีลธรรม เป็นแต่นักเล่นถั่วเล่นโป และนักเลงสุรา หากจะเอาคนพวกนั้นมาปกครองรักษาทรัพย์ ก็เป็นอันว่าถึงความฉิบหายเท่านั้น ท่านคุณเณรก็ดูยังน้อย ยังหนุ่มนัก ขอให้อยู่ไปนาน ๆ ก่อน อย่าได้เที่ยวไปทางอื่นอีก หรือหากจะสึกออกมาพ่อก็จะมอบสมบัติให้ครอบครอง"


อาตมภาพก็นั่งนิ่ง มิได้พูดคำหนึ่งคำใด ทำประดุจหนึ่งว่านั่งสมาธิ ดูเหมือนว่าแกมีความละอายขึ้นมา แล้วก็ลากลับขึ้นบ้าน ครั้นเมื่อค่ำลงวันนั้น อาตมาจึงพิจารณาต่อไปว่า


"บัดนี้เรามีอายุเพียง ๒๐ ปีเท่านั้น บัดนี้เราหนุ่ม จะอยู่ในศาสนาไม่ตลอดชีวิต"


ครั้นพิจารณาเช่นนี้ ก็รู้สึกขึ้นมาทันทีว่า บัดนี้จิตของเราเอนเอียงไปตามความชักนำของโยมคนนั้น ครั้นระลึกขึ้นได้ก็ทำประดุจหนึ่งว่าขู่จิตของตนว่า "เราปฏิบัติหาทางพ้นทุกข์ก็เป็นเวลา ๗ ปีนี้ เรื่องอะไรหนอจะมาอาลัยกับมาตุคามอยู่เช่นนี้ อย่าเลยนะ สถานที่นี้เป็นอัปมงคลแล้ว เราควรไปเสียเดี๋ยวนี้แหละจะดีกว่า" ครั้นพิจารณาแล้วก็หลบหนีไปในคืนวันนั้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น