วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สามเณรบุญนาค:เพียรสลัดรัก

สามเณรบุญนาค:เพียรสลัดรัก


อาตมภาพก็นั่งพิจารณาในใจว่า "นับแต่วันเราเกิดเป็นมนุษย์มา ไม่มีเลยที่เราจะมาคิดชอบคิดรักคน จนหายใจไม่อิ่มอย่างนี้ ไม่มีเลย" แต่ก็ไม่พูด อันนี้ เป็นแต่คิดในใจเท่านั้น แล้วพิจารณาต่อไปว่า "เราจะหาคำพูดอันหนึ่งอันใดที่จะมิให้เป็นที่พอใจรักใคร่กันต่อไปอีก"


นึกขึ้นมาแล้วก็ข่มใจพูดดูประหนึ่งว่าไม่มีความยินดีสักนิดเดียว พูดว่า "โยมผู้ใหญ่พร้อมทั้งนางสาวนั้นเป็นคนโง่ไม่มีปัญญา ทำไมจะมารักของทิ้ง คือโฉมสรีระร่างกายนี้ ทั้งของโยมทั้งสอง ทั้งของอาตมานี้ต่างก็จะพากันเอาไปฝังดินทิ้งทุก ๆ คนมิใช่หรือ เมื่อถึงที่สุดต่างคนก็ต่างจะถูกเอาไปฝังดินทิ้งอยู่แล้ว ประโยชน์อะไรมาคิดรักของทิ้งกันเล่นเปล่า ๆ ใครก็อยู่ไปจนกว่าจะเอาไปทิ้งกันเท่านั้น สิ่งที่ควรรักก็คือศีลธรรมเท่านั้น ไม่ควรรักร่างกระดูกคือรูปโฉมอันเป็น ของจะทิ้งลงสู่พื้นดินทุกคนไป"


ว่าแล้วอาตมภาพก็ฉันบิณฑบาตนั้นเรื่อยไป พออิ่มเสร็จแล้ว แกจึงถามว่า "คุณเณรดูเหมือนจะไม่สึกละหรือ" อาตมภาพจึงตอบขึ้นในทันใดว่า "อาตมาไม่ได้บวชเพื่อจะสึก บวชเพื่อจะบำเพ็ญกุศลบารมีเท่านั้น คืออาการของสึกยังไม่ได้คิดไว้เลย อาตมาได้คิดไว้แต่เพียงว่า การบวชของเรามีประโยชน์และมีธุระจะบำเพ็ญส่วนกุศลเท่านั้น ธุระหรือประโยชน์นอกนั้นไม่ใช่การงานของนักบวช จึงมิได้คิดไว้" ว่าแล้วอาตมภาพก็ให้พร ยถาสัพพี พอเสร็จหญิงสาวคนนั้นก็พูดสอดขึ้นว่า "คุณเณรมัวแต่จะเพียร สร้างบารมี นานเข้าจะลืมคิดสึก เดี๋ยวจะแก่เสียก่อน"


อาตมภาพนึกขึ้นได้ว่า พูดในเรื่องนี้จะเป็นอันตรายแก่ความสงบ ก็นั่งสมาธิเรื่อยไปไม่พูด ทั้งสองพ่อลูกเห็นอาการเช่นนั้นก็ชวนกันกลับบ้าน ฝ่ายอาตมภาพพอคนทั้งสองออกไปแล้ว ก็รู้สึกคิดถึงหญิงคนนั้น จนรู้สึกหายใจไม่อิ่มและใจคอว้าเหว่มาก นั่งก็ไม่นาน นอนก็ไม่หลับ ฉันข้าวก็ไม่ได้ เพราะปรากฏว่าหัวใจแขวนเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา เป็นอยู่เช่นนี้ ๒ วัน รู้สึกเป็นทุกข์มาก


อาตมภาพจึงดำริว่า ประโยชน์อะไรที่เราจะอยู่ ด้วยความทุกข์เช่นนี้ เราตายเสียในเร็ว ๆ นี้จะไม่ดีกว่าหรือ หากเราจะสึกไปมีครอบครัวอย่างฆราวาส ต้องทำปาณาติบาตเป็นอาชีพ เราก็สร้างบาปกรรมมากขึ้นไปอีก กว่าชีวิตนี้จะสิ้นไป เราก็จะมีบาปกรรม เป็นที่อาศัยไปข้างหน้า สู้เราตายเสียก่อน อย่าให้ทันได้ทำบาปกรรมเลย ฉวยเอาศีลธรรมที่เราได้ประพฤติมาแล้วนี้ เป็นที่อาศัยไปเสียก่อน ดีกว่าเราจะสึกออกไปสร้างเอาบาปเอากรรมต่อไปอีกตั้งหลายปีหลายเดือน เมื่อพิจารณาตกลงเช่นนี้แล้ว จึงตั้งสัจอธิษฐานว่า "หากความรักหญิงคนนี้ไม่ตายจากจิตใจของข้าพเจ้าแล้ว ขอให้ข้าพเจ้าจงได้ตายไปเสียภายใน ๑๐ วันนี้ ข้าพเจ้าจงอย่าทันได้สึกไปทำบาปกรรมทั้งหลายเหล่าอื่นต่อไปอีกเลย"


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น